13 ตุลาคม, 2552

ชาย 2 คน

มีชาย 2 คน ป่วยหนักทั้งคู่ และเผอิญอยู่โรงพยาบาลเดียวกัน ในห้องเดียวกัน ชายคนแรก จะต้องลุกขึ้น นั่งบนเตียงวันละ 1 ชั่วโมงทุกบ่าย เพื่อให้ของเหลวไม่ท่วมปอด

ขณะที่ชายคนที่สองจะต้องนอน อยู่บนเตียงตลอดเวลา ชายคนแรกได้นอนติดหน้าต่างซึ่งมีอยู่บานเดียวในห้องนั้น ทั้งสองคนใช้เวลาส่วนใหญ่ พูดคุยกัน ในเกือบทุกเรื่อง ทั้งเรื่องครอบครัว ภรรยา บ้าน ที่ทำงาน ตอนไปเกณฑ์ทหาร เวลาไปเที่ยวพักร้อน....

ช่วงเวลา 1 ชั่วโมงทุกๆ บ่าย เมื่อชายคนแรกได้ลุกขึ้นนั่งนั้น เขาจะเล่าให้ชายคนที่สองฟังถึงสิ่งต่างๆ ที่เขาได้เห็นจากหน้าต่างบานนั้น นานวันเข้า โดยไม่รู้ตัว ชายคนที่สองก็รอคอยช่วงเวลา 1 ชั่วโมงนั้นทุกวัน เพราะเป็นช่วงเวลา ที่เขาจะได้รับรู้ถึงความสนุกสนาน ความรื่นเริงและสีสันของโลกภายนอก นอกห้องของคนป่วย ที่เขาต้องทน นอนอยู่เฉย

มองจากหน้าต่าง จะมีสวนสาธารณะ ซึ่งตรงกลางมีบึงใหญ่มีเป็ดและหงส์ว่ายน้ำไปมาเด็กๆ ก็มาเล่นเรือ ลำเล็กๆ ที่บึงนี้ รอบๆ สวนเต็มไปด้วยแปลงดอกไม้หลากสีสัน คู่รักมาเดินเล่นพูดคุยกันอย่างมีความสุข มองออกไปไกลๆก็จะเห็นเส้นขอบฟ้า ที่ตัดกับตึกระฟ้าของเมือทุกๆครั้งที่ชายคนแรกบรรยาย สิ่งที่เขาได้เห็นจากหน ้าต่างนั้น ชายคนที่สองก็จะหลับตา และจินตนาการ ถึงภาพต่างๆ ไปด้วยเสมอ แม้กระทั่งในบ่ายวันหนึ่งที่ชายคนแรกเล่าให้ฟังว่า มีขบวนพาเหรดผ่านไปชายคนที่สองก็เห็นภาพผู้คน ในขบวนพาเหรดในชุดหลากสีสัน เดินตามจังหวะเพลงอย่างสนุกสนาน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินเสียงเพลงเลยแม้แต่น้อย

เวลาผ่านไปเช้าวันหนึ่งเมื่อพยาบาลจะเข้ามาเช็ดตัวตามปกติ เขาก็พบว่า ชายคนแรกได้จากไปแล้ว อย่างสงบ ไม่นานนัก ชายคนที่สองก็ได้ขอร้องกับพยาบาลให้เขาย้ายไปนอนติดกับหน้าต่างแทน ซึ่งเธอก็ไม่ขัดข้อง เมื่อย้ายเตียงเรียบร้อยแล้ว ชายคนแรกก็ค่อยๆ ขยับตัว ถึงแม้จะเจ็บเขาก็พยายามยันข้อศอกขึ้น เขาต้องการจะเห็นสิ่งที่เขาได้รับฟังมาตลอดจากชายคนแรก สิ่งต่างๆ ที่อยู่นอกหน้าต่างนั้น ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ

ขามองออกไปนอกหน้าต่าง สิ่งที่เขาเห็นคือกำแพงที่ว่างเปล่า ..................... เขาไม่รีรอที่จะถามกับพยาบาลด้วยความสงสัยว่าทำไมชายคนแรกถึงได้เล่าให้เขาฟัง ถึงสิ่งสวยงามต่างๆ ที่เกิดขึ้นนอกหน้าต่างนั้นตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน

พยาบาลบอกให้เขาทราบว่าชายคนแรกนั้นตาบอดและเขามองไม่เห็นอะไรเลยแม้กระทั่ง กำแพงนั้น "บางทีเขาแค่อาจจะอยากคอยให้กำลังใจคุณนะคะ" ชีวิตยังสวยงามนะ
หากเราจะมองให้มันสวยงาม เป็นกำลังใจให้ทุกคนที่ท้อแท้กับการมีชีวิตอยู่ ถ้ารักจะเป็นดาวในหาวห้อง จงเรืองแสงฉายส่องในห้องหาว

ใครทุกหนอาจมิเห็นเราเป็นดาว ใช่เรื่องร้อนปวดร้าวถ้าเราเป็น

ที่มา :http://www.discuzthai.com/thread-473-1-1.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น